ฎีกาตัดสินเกี่ยวกับปัญหาข้อกฎหมาย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2033/2528
ป.อ. มาตรา 72, 78, 288
ป.วิ.อ. มาตรา 195, 225
จำเลยให้การรับสารภาพในชั้นสอบสวนว่าได้ใช้อาวุธปืนยิงและตีผู้ตายจนถึงแก่ความตายจริง โดยมิได้อ้างเหตุในเรื่องป้องกันตัวขึ้นต่อสู้ ในชั้นพิจารณาจำเลยก็เบิกความรับข้อเท็จจริงดังกล่าวและรับด้วยว่าได้ลงชื่อไว้ในคำให้การจริงทั้งศาลชั้นต้นก็ได้ยกเอาคำให้การดังกล่าวขึ้นมารับฟังประกอบการวินิจฉัยคดีด้วยดังนี้ ถือได้ว่าคำให้การของจำเลยในชั้นสอบสวนและคำเบิกความของจำเลยในชั้นพิจารณาเป็นการให้ความรู้แก่ศาลอันเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา เป็นเหตุบรรเทาโทษ
การที่ศาลลงโทษจำเลยน้อยกว่าที่กฎหมายกำหนดเพราะจำเลยกระทำความผิดโดยบันดาลโทสะแล้วนั้น. ศาลยังลดโทษให้จำเลยในกรณีที่มีเหตุบรรเทาโทษในประการอื่นได้อีก
เมื่อคดีขึ้นมาสู่การพิจารณาของศาลอุทธรณ์แล้วหากศาลอุทธรณ์เห็นว่ามีเหตุบรรเทาโทษแก่จำเลยในข้อหาความผิดที่มิได้อุทธรณ์ขึ้นมาด้วยเพราะจำเลยให้การรับสารภาพศาลอุทธรณ์ก็มีอำนาจหยิบยกขึ้นวินิจฉัยและลดโทษให้แก่จำเลยได้
___________________________
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288, 289, 91 และตามพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ
จำเลยให้การปฏิเสธในข้อหาฆ่าผู้อื่น ส่วนข้อหาอื่นให้การรับสารภาพ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288ประกอบด้วยมาตรา 72 และตามพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ มาตรา 7, 8 ทวิ, 72, 72 ทวิ
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า ความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288 ระกอบกับมาตรา 72 นั้น คำให้การของจำเลยในชั้นสอบสวนและชั้นพิจารณาเป็นประโยชน์แก่การพิจารณามีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้หนึ่งในสามตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 ความผิดตามพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ จำเลยให้การรับสารภาพ เป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ตามคำให้การของจำเลยในชั้นสอบสวน จำเลยให้การรับสารภาพว่าได้ใช้อาวุธปืนยิงและตีผู้ตายจนถึงแก่ความตายจริง โดยมิได้อ้างเหตุในเรื่องป้องกันตัวขึ้นต่อสู้ ในชั้นพิจารณาจำเลยก็เบิกความรับข้อเท็จจริงดังกล่าวและรับด้วยว่าจำเลยได้ลงชื่อไว้ในคำให้การชั้นสอบสวนจริง ศาลชั้นต้นก็ได้ยกเอาคำให้การของจำเลยในชั้นสอบสวนขึ้นมารับฟังประกอบการวินิจฉัยคดีด้วยดังนี้ ถือได้ว่าคำให้การของจำเลยในชั้นสอบสวนและคำเบิกความของจำเลยในชั้นพิจารณาเป็นการให้ความรู้แก่ศาลอันเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา เป็นเหตุบรรเทาโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 แล้ว และการที่ศาลลงโทษจำเลยน้อยกว่าที่กฎหมายกำหนดเพราะจำเลยกระทำความผิดโดยบันดาลโทสะแล้วนั้น ก็ไม่มีกฎหมายใดห้ามมิให้ศาลลดโทษให้จำเลยในกรณีที่มีเหตุบรรเทาโทษในประการอื่นอีก
ที่โจทก์ฎีกาว่า ในความผิดฐานมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนโดยไม่ได้รับอนุญาตกับความผิดฐานพาอาวุธปืนติดตัวไปโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายนั้นศาลอุทธรณ์หยิบยกขึ้นมาวินิจฉัยและลดโทษให้จำเลยโดยไม่มีคู่ความฝ่ายใดอุทธรณ์เป็นการไม่ชอบนั้นเห็นว่าแม้จะไม่มีคู่ความฝ่ายใดอุทธรณ์ในความผิดทั้งสองฐานดังกล่าวก็ตามแต่เมื่อจำเลยอุทธรณ์คำพิพากษาศาลชั้นต้นในความผิดฐานฆ่าผู้อื่นอันทำให้คดีต้องขึ้นไปสู่การพิจารณาของศาลอุทธรณ์แล้ว หากศาลอุทธรณ์เห็นว่ามีเหตุบรรเทาโทษแก่จำเลยเพราะจำเลยให้การรับสารภาพในความผิดทั้งสองฐานนี้ ศาลอุทธรณ์ก็มีอำนาจหยิบยกขึ้นวินิจฉัยและลดโทษให้แก่จำเลยได้
พิพากษายืน
(โสภณ รัตนากร-วิฑูรย์ ตั้งตรงจิตต์-วุฒิ ยุววิทยาพาณิชย์)
แหล่งที่มา
กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
แผนก
หมายเลขคดีแดงศาลชั้นต้น
หมายเหตุ
หากมีข้อสงสัยประการใดติดต่อ ที่นี้เลย Tel/Line id : 089-2142456 (ทนายสอง ประธานชมรมปรึกษาคดีฟรี ทั่วประเทศ ทุกจังหวัด ทนายความ)
Line id : lawyer_2 ชมรมปรึกษาคดีฟรี ทั่วประเทศ ทุกจังหวัด ทนายความ)
ท่านสามารถเข้าเยี่ยมชมศึกษาข้อกฎหมาย คำพิพากษา ได้ที่ www.ปรึกษาคดีฟรี.com